วันเสาร์ที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

พระอาจารย์ตุ๋ย สอนธรรม

การปรารถนา   นิพพาน   ที่ถูกนั้น
มิได้เป็นไป เพื่อ  หนีความทุกข์
มิได้เป็นไป เพื่อ  หาความสุข
แต่เป็นไป   เพื่อ  เข้าใจ..ความจริง
ของโลก ที่ยัง อยากข้องอยู่
เมื่อถึงปลายสุดของสุข จะเจอ ทุกข์
เมื่อถึงที่สุดแห่งทุกข์ เจอสุขจริง
เขาร่ำรวย เพราะ เขาเรียนรู้พอ
เขาสุข เพราะ  เขารู้จักทุกข์แล้ว
เขาจึงมิได้สุข  เพราะ  ไปหาสุข 
แต่เขาสุข       เพราะ   ทุกข์มันไม่มี
ไม่มีใครเข้าถึง สุข  ได้ด้วยการ เสวยสุข
นั่นคือการ กินเหยื่อข้างนอก ที่มีเบ็ดซ่อนอยู่ข้างใน
แต่หากได้รู้แล้ว ว่าข้างในเหยื่อนั้นมีเบ็ดซ่อน
ปลาบางตัวกลับกินเหยื่อได้อย่างปลอดภัย โดยไม่ติดเบ็ดของพรานเลย
เป็นปกติของปลาที่รู้เท่าทันภัย
มันย่อมไม่ประมาท .. มันฉลาด มีวิธีกิน
- เขาย่อมอยู่กับโทษของโลกได้ โดยไม่มีภัย
หากเขาเข้าใจ ความจริงว่าใน แก่น จริงนี้มี เบ็ด สิงอยู่ข้างใน
จะกินเบ็ด หรือ กินเหยื่อ
เริ่มจากความเชื่อ ต้องถูกตรง
@@@     @@@
หาก อยากปล่อยวาง  ต้องทำยังไง ?
…  การปล่อยวาง .. มิได้
ทำได้ด้วย การปล่อย หรือการวาง จากอาการแห่งการตั้งใจ จะปล่อย หรือจะวาง
เพราะไม่ได้  เป็นสิ่ง ที่เป็นไปได้
ด้วยเรามิได้  เป็นสิ่ง ที่จะไปกำหนดอะไรเอาเองได้ จาก ความอยากให้มันเป็นไป
ตามความอยากของเรา (อนัตตา)
แม้อารมณ์ใจของตัวเราเอง ยังเป็นสิ่งที่เราไม่สามารถควบคุมได้
แม้ว่ามันจะอยู่ชิดกับเราที่สุดแล้วก็ตาม
แล้วเราจะไป ควบคุมอะไรๆ อีกได้จริงๆหรือ ?
… แต่การปล่อยวาง .. มีได้
ด้วยการเข้าใจความจริง ว่า
ความสุข ที่  เ  ค ย   ได้
และ ก็ยังอยากได้ อี ก
มันจะไม่ได้อยู่กับใครได้อย่าง
... คงทนถาวร โดย
... ไม่เสื่อมไม่จาง ไม่ดับไป เลย
เมื่อธรรมชาติของมันต้องดับ
แล้วทำไมไปบังคับให้มันคงอยู่ เราไม่รู้หรืออย่างไร ?
การปล่อยวาง .. มีได้ ..
ด้วยการเข้าใจความจริง
ว่าความทุกข์ ว่าความไม่สบายใจ
แม้ไม่ต้องผลักใส มันก็ต้องดับไป อีกเช่นกัน
อย่าไปผลัก ไปดัน ให้มันทุกข์ใจ
อย่างมากมันก็ทำให้ .. เจ็บปวด ..ได้
แต่มันไม่อาจทำให้ .. เจ็บใจ
แค่ยอมให้มันผ่านทาง อย่าไปขวาง ให้เปลืองตัว .

1 ความคิดเห็น:

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น