วันอังคารที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

บุญกา ข้อแสดงธรรม ๒๖/๗/๕๙-งม/ย/บ่อ

กราบนมัสการพระคุณเจ้าค่ะ
สวัสดีค่ะพี่น้องเพื่อนธรรมทุกท่าน

ขออนุญาตน้อมนำส่งบุญกา ข้อแสดงธรรม
*แทนน้องเอกนะคะ

อ.แสดงธรรม

:พระพุทธศาสนาจากพระโอษฐ์:

๑๗๕ ความเห็นผิดคืออย่างไร

ปัญหา ข้อที่ว่าโลภและโกรธเป็นมูลเหตุให้เกิดอกุศลกรรมนั้น พอจะเข้าใจแล้ว แต่ข้อที่ว่าโมหะอันเป็นเหตุให้เกิดมิจฉาทิฐิความเห็นผิดนั้นคือเห็นอย่างไร ?

พุทธดำรัสตอบ “
..... ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย
บุคคลบางคนในโลกนี้ เป็นมิจฉาทิฐิมีความเห็นวิปริตว่า

ทานที่ให้แล้วไม่มีผล
ยัญที่บูชาแล้วไม่มีผล
การเช่นสรวงไม่มีผล ผลวิบากของกรรมที่บุคคลทำดีทำชั่วไม่มี
โลกนี้ไม่มี โลกหน้าไม่มี
มารดาไม่มี บิดาไม่มี
สัตว์พวกที่เกิดผุดขึ้นไม่มี
สมณะพราหมณ์ผู้ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ ทำโลกนี้และโลกหน้าให้แจ้งชัดด้วยปัญญาอันยิ่งเองแล้ว สอนหมู่สัตว์ให้รู้ตามไม่มีในโลก

ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย นี้เรียกว่าทิฐิวิบัติ.... เพราะทิฐิวิบัติเป็นเหตุ สัตว์ทั้งหลายเมื่อกายแตกตายไป ย่อมเข้าถึงอบายทุคติ วินิบาต นรก.....ฯ”

อยสูตร ติ. อํ. (๕๕๗)
ตบ. ๒๐ : ๓๔๕ ตท. ๒๐ : ๓๐๒
ตอ. G.S. I : ๒๗๐

http://www.84000.org/true/175.html

กา.ทำความเห็นถูกตรง

จากข้อแสดงธรรม ตรงกับ
     สัมมาทิฏฐิ เบื้องต้น
๑.ทาน ที่ให้แล้วมีผลจริง  พระพุทธ ทรงให้ทานแก่ชาวโลก  โดยทรงใช้พระธรรมคำสอนแก่ชาวโลก เพี่อให้พบหนทางพ้นทุกข์ มีผลจริง
     ทาน ที่ถวายแก่พระสงฆ์เพื่อดำรงค์ไว้ซึ่งพระพุทธศาสนามีผลจริง
การให้ทาน เพื่อช่วยเหลือผู้อื่น มีผลจริง
     อภัยทาน 
การให้อภัยแก่ผู้อื่น การงดเว้นการเบียดเบียนชีวิตผู้อื่นไม่ว่าคนหรือสัตว์ มีผลจริง
     ธรรมทาน
การให้ธรรมทาน ให้ความรู้ คือให้ปัญญาแก่ผู้อื่น มีผลจริง
เพื่อปรุงแต่งจิต ทานต่อพวก๑๔

     ๒..การบูชามีผลจริง ;ด้วย อามิสบูชา ,ปฏิบัติบูชา
เพื่ออ่อนน้อม ถ่อมตน สรรเสริญ เคารพ ลดอัตตาฯบูชาต่อสุจริต๓

     ๓.บวงสรวงที่สังเวยแล้วมีผลจริง  เพื่อสร้างพละกำลัง กับผู้สามารรถเสริมกำลังเรา ต่อพวก๕ แขก,ญาติ,เทว,ราช,เปรต มีผลจริง

     ๔. ทำดีได้ดีทำชั่วได้ชั่ว  เชื่อว่า การทำความดีหรือชั่ว   และต้องได้รับผลแห่งการกระทำนั้น จริง

     ๕. โลกนี้มีอยู่จริง เชื่อว่า ผู้ตายจากโลกอื่น มาเกิดในโลกนี้มีอยู่จริง ผู้สั่งสมความดี ประพฤติปฏิบัติดี  เมื่อตายไปจะได้เกิดในภพภูมิที่ดี ผู้มีธรรม จะมีสุขที่แท้จริง และพบหนทางพ้นทุกข์

     ๖. โลกหน้ามีจริง เชื่อว่า ผู้ที่ตายจากโลกนี้ไปเกิดในโลกหน้ามีอยู่จริง
โอปาติกะ มีจริง สุดแต่กรรมดีกรรมชั่วที่ได้ทำไว้ พระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธองค์ หากปฎิบัติตามจะเกิดในภพภูมิที่ดี

๗.มารดามีคุณจริง  ต้องตอบแทน การกระทำดี ชั่ว ต่อมารดาย่อมได้รับผลจริง

     ๘.บิดามีคุณจริง ต้องตอบแทน การกระทำดี ชั่ว ต่อบิดาย่อมได้รับผลจริง

     ๙.สัตว์ที่ผุดเกิดขึ้นมีจริง โอปปาติกะมีจริง การเวียนว่ายในวัฏฏะสงสารมีจริง

     ๑๐. พระอรหันต์  พระพุทธเจ้า  ผู้สามารถรู้แจ้งเห็นจริงทั้งโลกนี้และโลกหน้าด้วยตนเองแล้วสอนผู้อื่นให้พ้นทุกข์ มีอยู่จริง

          จากข้อแสดงธรรม ตรงกับสัมมาทิฏฐิ เบื้องปลาย ข้อที่
     ๑. ความรู้ในทุกข์ – ความเกิดขึ้นแห่งทุกข์ ;  ขันธ์๕ อันเป็นที่ตั้งแห่งความยึดมั่นถือมั่น ๕ อย่าง
ได้แก่ รูป เวทนา สัญญา สังขาร และ วิญญาณ
วัฏสงสาร>กรรมเก่า - กรรมใหม่  ความเกิดขึ้นแห่งภพใหม่
ชาติ ชรา มรณะ ความทุกข์โทมนัส ความโศก ความคับแค้นใจ ความเวียนว่ายตาย เกิด ไม่มีที่สิ้นสุด

      ๒. ความรู้ในทุกข์สมุทัย -เหตุให้เกิดทุกข์ ; >กรรมเก่า กรรมใหม่ การเวียนว่ายในวัฏสงสาร คือการปรากฎขึ้นแห่งกองทุกข์ วิญญาณย่อมเข้าไปตั้งอาศัยใน รูป เวทนา สัญญา สังขาร
ด้วยอำนาจแห่งนันทิและราคที่มีในนั้น  >การเกิด>ภพใหม่  ความไม่รู้อริยสัจ4 ความอยากในตัณหา๓  

     ๓. ความรู้ในทุกขนิโรธ (ความดับทุกข์) ;คือ  ความดับแห่งกรรม ดับตัณหา๓
ความรู้ในอริยสัจ๔ เพราะเหตุว่า สังสารวัฏหาเบื้องต้นและที่สุดไม่ได้ แต่การได้รู้อริยสัจ๔จะเป็นเหตุให้ชาตินี้เป็นชาติสุดท้าย ภพที่เกิดใหม่ มิได้มีอีกต่อไป

     ๔. ความรู้ในทุกขนิโรธคามินีปฏิปทา (ทางดับทุกข์)
มัชฌิมาปฏิปทา อริยมรรคมีองค์๘ คือแนวทางแห่งการพ้นทุกข์

นับคำข้าว งม/ย/บ่อ -๒๖/๗/๕๙
ช- งา๒๐
ท- เงิน๒๔
กล่าวคำอธิษฐาน หลังการทำบุญกาฯลฯ
กราบ กราบ กราบ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น