วันพฤหัสบดีที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

บุญกาข้อแสดงธรรม ๑๔/๗/๕๙


ขออนุญาตน้อมนำส่งบุญข้อแสดงธรรมค่ะ
ก้น-ย-บ่อ/๑๔~๗~๕๙

อ.แสดงธรรม

:พระพุทธศาสนาจากพระโอษฐ์:

๑๗๒ ภิกษุควรหัวเราะหรือไม่

ปัญหา
ได้ทราบมาว่า พระพุทธเจ้าและพระอรหันต์ไม่มีการหัวเราะมีแต่ยิ้มแย้มเท่านั้น พระภิกษุควรจะหัวเราะหรือไม่?

พุทธดำรัสตอบ “.....
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย

การขับร้องคือ การร้องไห้ในวินัยของพระอริยเจ้า

การฟ้อนรำคือ ความเป็นบ้าในวินัยของพระอริยเจ้า

การหัวเราะจนเห็นฟันพร่ำเพรื่อ คือความเป็นเด็กในวินัยของพระอริยเจ้า

เพราะเหตุนั้น และ จงละเสียโดยเด็ดขาด ในการขับร้องฟ้อนรำ

เมื่อท่านทั้งหลายเบิกบานในธรรม ก็ควรแต่เพียงยิ้มแย้ม”

โรณสูตร ติ. อํ. (๕๔๗)
ตบ. ๒๐ : ๓๓๕ ตท. ๒๐ : ๒๙๒
ตอ. G.S. I : ๒๓๙

http://www.84000.org/true/172.html

            ตรงกับสัมมาทิฐิ เบื้องต้น ๑๐.พระอรหันต์พระพุทธเจ้าผู้สามารถรู้แจ้งเห็นจริงทั้งโลกนี้และโลกหน้า ด้วยตนเอง แล้วสอนผู้อื่นให้พ้นทุกข์มีอยู่จริง

              สัมมาทิฏฐิ เบื้องปลาย
     ๑. ความรู้ในทุกข์ – ความเกิดขึ้นแห่งทุกข์ ;  ขันธ์๕ อันเป็นที่ตั้งแห่งความยึดมั่นถือมั่น ๕ อย่าง
ได้แก่ รูป เวทนา สัญญา สังขาร และ วิญญาณ
วัฏสงสาร>กรรมเก่า - กรรมใหม่  ความเกิดขึ้นแห่งภพใหม่
ชาติ ชรา มรณะ ความทุกข์โทมนัส ความโศก ความคับแค้นใจ ความเวียนว่ายตาย เกิด ไม่มีที่สิ้นสุด

      ๒. ความรู้ในทุกข์สมุทัย -เหตุให้เกิดทุกข์ ; >กรรมเก่า กรรมใหม่ การเวียนว่ายในวัฏสงสาร คือการปรากฎขึ้นแห่งกองทุกข์ วิญญาณย่อมเข้าไปตั้งอาศัยใน รูป เวทนา สัญญา สังขาร
ด้วยอำนาจแห่งนันทิและราคที่มีในนั้น  >การเกิด>ภพใหม่  ความไม่รู้อริยสัจ4 ความอยากในตัณหา๓  

     ๓. ความรู้ในทุกขนิโรธ (ความดับทุกข์) ;คือ  ความดับแห่งกรรม ดับตัณหา๓
ความรู้ในอริยสัจ๔

     ๔. ความรู้ในทุกขนิโรธคามินีปฏิปทา (ทางดับทุกข์)
มัชฌิมาปฏิปทา อริยมรรคมีองค์๘ คือแนวทางแห่งการดับทุกข์

นับคำข้าว ก้น/ย/บ่อ -๑๔/๗/๕๙
ช-ไม่ได้ทานค่ะ
ท-ตึก -๓๑

กล่าวคำอธิษฐาน หลังการทำบุญกาฯลฯ
กราบ กราบ กราบ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น