วันพฤหัสบดีที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2559

เนื้อสัตว์ ไม่ใช่ชีวิตสัตว์

Iut Tui15 เมษายน 16:36

@ เนื้อสัตว์ ไม่ใช่ชีวิตสัตว์
@การกินเนื้อสัตว์ ไม่ใช่การฆ่าสัตว์
@ การกินเนื้อสัตว์เป็นประโยชน์ การฆ่าสัตว์เป็นโทษ

การนำเรื่องสองเรื่องที่ต่างกันมารวมเข้าด้วยกัน
หรือไม่แยกออกจากกัน

อาจทำให้เกิดความไขว้เขวได้

เมื่อเราแยกออกจากกันเราจะเห็นว่า
เราสามารถเลือกรับเอาแต่ฝ่ายประโยชน์ได้
เพราะเราไม่เอามาปนกัน

การที่สัตว์ถูกฆ่าตายแล้วโดยเขาไม่ได้
ตั้งใจฆ่าเพื่อเรา เราจึงไม่มีส่วนอะไรกับ
การฆ่าของเขาเลย

เราไม่ได้เบียดเบียนชีวิตสัตว์
เราไม่ได้เบียดเบียนร่างกายสัตว์

สิ่งที่เรากินเป็นเพียงแต่ธาตุที่มีอยู่ก่อนที่
จะมีชีวิตของสัตว์เข้าไปครองในกายของมันด้วยซ้ำ

ธาตุต่างๆ เปลี่ยนไปเปลี่ยนมา
มนุษย์ถ่ายออกกลายเป็น
อาหารของต้นไม้
หนอนกินใบไม้
ไก่กินหนอนอีกที
เวียนกลับมาที่คนกินไก่

แท้จริงแล้วเรากินไก่จริงหรือ?
หรือเรากินธาตุที่หมุนเวียนในธรรมชาติ
เรากินเนื้อไก่ หรือเรากินจิตวิญญาณของมัน
เราได้เบียดเบียนมัน หรือ
ทำให้มันทุกข์ตรงไหนไหม?

ทางฝากโน้นมักประโคมว่า พระพุทธองค์ไม่ทรงฉันเนื้อ เพราะความเมตตาของพระองค์

เจ้าแม่เจ้าพ่ออะไรของเขาก็ไม่กินเนื้อ
จึงยกตนข่มท่านเอาว่าการกินเนื้อเลวทราม
เพราะถ้าไม่มีใครกินเนื้อ ก็ไม่มีคนฆ่ามาขาย
เรื่องเพ้อเจ้อจริงๆ
ด้วยไม่มีมนุษย์คนไหนเลยจะเหมือนกัน
บางคนมักโกรธ เบียดเบียนชีวิตผู้อื่นเพื่อตน

ขณะที่บางคนมีเมตตาสละชีวิตตนเพื่อคนอื่น

ไม่มีทางเป็นไปได้ว่าหากเราไม่กิน
คนอื่นก็จะไม่มีใครจะกิน
ถ้าเป็นอย่างเขาคิดจริงๆแล้ว ในเมื่อเขาก็ไม่ได้กินเนื้อแล้ว ทำไมวันนี้โลกยังมีการฆ่าสัตว์อีกเล่า
ก็เขาไม่กินแล้วไม่ใช่หรือ?

โลกนี้ไม่ได้แคบอย่างใครคิด
โลกไม่ได้มีศาสนาเดียว

ยิ่งเอาพระพุทธองค์ หรือพระโพธิสัตว์ทั้งหลาย
มาอ้างว่าท่านเหล่านั้นก็ไม่กินเนื้อ ไม่รู้ว่าเอาอะไรมาพูด

หากพระพุทธองค์ยังทรงบริโภคผัก หรือบริโภคเนื้อนั่นคงไม่ใช่พระพุทธเจ้าแล้ว
เพราะพระองค์ทรงเห็นธาตุเป็นเพียงธาตุ พระองค์จึงไม่ได้บริโภคผัก หรือ
บริโภคเนื้อ
แต่พระองค์ทรง ..บริโภคธรรม

เรื่องไม่กินเนื้อนี้
พระเทวทัตเคยทูลขอ แต่พระองค์ไม่ให้ตามที่ขอมา
เจ้าพ่อเจ้าแม่ทั้งหลาย ไม่ได้มีอยู่ในศาสนาพุทธ
ที่มีอยู่เดิม
เป็นเรื่องสร้างกันขึ้นมาใหม่ เพราะฝากโน้น

พระอาจไม่กินเนื้อสัตว์ แต่บางนิกายพระมีเมียมีลูกได้
วัดตกทอดด้วยมรดกจากพ่อไปสู่ลูก เพราะเติมเรื่องเข้าไป
ทีละนิดเท่านั้น วันนี้พระมีเมียจึงเป็นเรื่องปกติไป


เถรวาทยึดถือเอาตามดั้งเดิมที่มี ในพุทธกาล
...เราไม่เติมของใหม่เข้า
...เราไม่เอาของเดิมออก

หากใครอยากตัด อยากเติม
เชิญท่านเริ่มนิกายใหม่ตามใจท่าน
ขอให้โชคดี

มีใครอยากเติม เรื่องใหม่ทีละนิด
เข้าใน พุทธทางเถรวาท บ้างไหม?

2 ความคิดเห็น:

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น